
รู้จัก AR เทคโนโลยี ที่ผสมผสานความเสมือนจริงบนโลกแห่งความจริง
AR (Augmented Reality) เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริง (Real) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual) ผ่านอุปกรณ์ทางด้านฮาร์ดแวร์รวมกับการใช้ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ทำให้เราสามารถมองเห็นภาพที่มีลักษณะเป็นวัตถุ (Object) แสดงผลในจอภาพกลายเป็นวัตถุ 3 มิติ ลอยอยู่เหนือพื้นผิวจริง มีการแสดงผลที่แสดงวัตถุมีการเคลื่อนไหว ซึ่ง AR จะใช้หลักการของการตรวจจับการเคลื่อนไหว (Motion Detection) การตรวจจับการเต้นหรือการเคาะ (Beat Detection) การจดจำเสียง (Voice Recognize) และการประมวลผลภาพ (Image Processing) วันนี้ ไอทีรอบรู้ จะพาไปดูกันเลย
กล่าวได้ว่านี่ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าสื่อยุคใหม่ไปโดยสิ้นเชิง เหมือนกับเมื่อเมื่อตอนเกิดอินเทอร์เน็ตขึ้นในโลกก็ว่าได้ โดยถ้าเปรียบสื่อต่าง ๆ เสมือน “กล่อง” แล้ว AR ก็คือการเด้งออกมาสู่โลกใหม่ภายนอกกล่องที่สร้างความ ตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ได้สัมผัส ในรูปแบบ Interactive Media ที่เป็นการแสดงผลบนสภาพแวดล้อมจริง ทำให้เราเห็นข้อมูลต่าง ๆ ได้ละเอียดและชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง

AR เทคโนโลยีนี้ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในหลากหลายด้าน ยกตัวอย่างเช่น
1. ใช้ในการเรียนการสอน
AR จะสามารถช่วยให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจ และตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เช่น ใช้กับการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ในการจำลองภาพโครงสร้างต่าง ๆ อะตอม, โครงสร้างของเซลล์พืช เซลล์สัตว์ และโครงสร้างร่างกายของมนุษย์และสัตว์ เป็นต้น มากไปกว่านั้น ในรายวิชาศิลปะก็ถูกนำมาใช้เพื่อจำลองภาพวาดหายากชื่อดังในอดีตที่ให้นักเรียนดูได้อีกด้วย
2. ใช้กับการออกแบบ
เทคโนโลยี AR สามารถนำมาใช้กับการออกแบบงานต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น นำสิ่งที่ออกแบบมาแสดงผลองค์ประกอบในห้องจริง ๆ เพื่อดูความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ต่าง ๆ หรือใช้กับการจำลองเฟอร์นิเจอร์ และจัดวางเลย์เอาท์ของห้องได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ส่วนในการใช้กับการท่องเที่ยว AR เอง ก็สามารถนำมาใช้ได้ เช่น แสดงการนำทางแบบ AR ที่มีความแม่นยำ, แสดงข้อมูลเกี่ยวกับรูปภาพในพิพิธภัณฑ์, แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ได้แบบเสมือนจริง เป็นต้น

3. ใช้เพื่อความบันเทิง
AR สามารถนำมาใช้เพื่อความบันเทิงได้อย่างหลากหลาย เช่น ใช้จำลองรูปศิลปินเพื่อให้แฟน ๆ ได้ถ่ายรูปร่วมกัน, ใช้สำหรับการเล่นเกมเพื่อเพิ่มความสนุก (Pokemon Go, Harry Potter : Hogwarts Mystery) หรือแม้กระทั้ง ใช้สำหรับการถ่ายภาพด้วยฟิลเตอร์ที่จะจำลองสิ่งต่าง ๆ ขึ้นบนใบหน้าหรือภาพทิวทัศน์ของเรา (Animoji) ได้อย่างสวยงาม เพิ่มอรรถรสในการใช้งานสื่อด้านต่าง ๆ ได้อย่างมากเลยทีเดียว
4.ใช้เพื่อข้อมูลทางชีวมาตร
เทคโนโลยีนี้ใช้การจับภาพใบหน้าของเราแบบ 3 มิติ และบันทึกไว้เป็นข้อมูลทางชีวมาตร เพื่อนำมาเป็นรหัสผ่านสำหรับอุปกรณ์ ซึ่ง AR ก็ถูกใช้ในมือถืออย่าง iPhone ที่เรียกว่าระบบ Face ID นั่นเอง

โดยเทคโนโลยี AR นี้จะสามารถทำให้ผู้ใช้เห็นภาพเสมือนจริงได้รอบ โดยไม่จำเป็นจะต้องเดินทางไปสถานที่จริง หากในอนาคตเทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือความก้าวหน้าของมนุษย์ก็ต้องพัฒนาควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน