ผลกระทบด้านไอทีที่มีต่อเด็กยุคใหม่
เด็กยุคใหม่กับการเข้ามาของเทคโนโลยีสังคมออนไลน์ ที่มีทั้งด้านบวกและด้านลบ แล้วแต่คนจะเลือกใช้ในอัตราที่เหมาะสม แต่หากอะไรที่ใช้มากจนเกินไปก็ย่อมส่งผลในทางลบ โดยเฉพาะเด็กที่กำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต การเสพติดด้านไอทีของเด็กยุคใหม่มากเกินไปนั้น ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพทั้งทางร่างกาย และจิตใจที่ปรากฏให้เห็น มีอะไรบ้างไปดูกันเลย วันนี้ ไอทีรอบรู้ จะพามาดู
1. เด็กยุคใหม่มีภาวะอ้วนง่ายกว่าในอดีต
ในปัจจุบันพบว่ามีอัตราเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม เนื่องจากวิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ทั้งค่านิยมในการรับประทานอาหาร และกิจกรรมที่เด็กทำโดยเด็กยุคใหม่นิยมการหันมาใช้เวลาว่างในการเล่นเกม หรือใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งผ่านคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ต่างจากเด็กสมัยก่อนที่นิยมทำกิจกรรมในยามว่างร่วมกับเพื่อนโดยการวิ่งเล่น เล่นกีฬา ออกกำลังกายกลางแจ้ง ซึ่งการละเล่นหรือกิจกรรมเหล่านั้นจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กให้แข็งแรง ดังนั้นเด็กยุคใหม่จึงเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้มากกว่าเด็กในอดีต ความอ้วนในเด็กยังรวมถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารของเด็กพบว่าติดหวาน และมีอัตราการเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น เพราะเด็กยุคใหม่นิยมดื่มน้ำอัดลม และกินอาหารฟาสต์ฟู๊ด
2. เด็กยุคใหม่โรคสมาธิสั้น
เกิดจากการเล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต ดูทีวีเยอะ ผู้ปกครองบางคนเข้าใจผิดเห็นลูกดูโทรทัศน์ได้นานเป็นชั่วโมงแล้วนึกว่าเด็กมีสมาธิดี แต่โดยหลักการวัดสมาธิเด็กจะไม่นำสิ่งเหล่านั้นมาวัด เนื่องจากถือว่าเป็นสิ่งเร้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในหนึ่งนาทีมีการเปลี่ยนภาพเป็นพันภาพการที่เด็กได้ดูโทรทัศน์ หรือเล่นเกมนาน ๆ และรู้สึกสนุกจนเมื่อทำอย่างอื่นก็รู้สึกไม่สนุกเท่า เมื่อต้องมาอ่านหนังสือมาทำอะไรนิ่ง ๆ จึงจดจ่อได้ไม่นานเกิดความรู้สึกไม่อยากทำเพราะเป็นตัวกระตุ้นเดียว ต่างจากสมัยก่อนเด็กต้องฝึกคัดไทยหรือแม้แต่การละเล่น เช่น หมากเก็บ ลิงชิงบอล มอญซ่อนผ้า ลีลีข้าวสาร เป็นส่วนสร้างให้เด็กมีสมาธิ
3. เด็กยุคใหม่พบปัญหาด้านสายตาที่เกิดจากการเพ่ง
การใช้สายตาเยอะและใช้ในที่มีแสงไม่เหมาะสมจะทำให้ปวดตาได้ง่าย ส่งผลต่อการก่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับสายตาสั้นก่อนวัยอันควร
4. เด็กยุคใหม่มีภาวะปวดหัว และโรคไมเกรน
เกิดจากการทำงานของสมองอย่างหนึ่งพบว่าแสงจ้า ๆ จากคอมพิวเตอร์หรือมือถือ ล้วนเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนได้ เด็กยุคใหม่บางคนปิดไฟมืดแล้วเล่นมือถือหรือไอแพด เป็นต้น
ดังนั้นการใช้สมาร์ทโฟนเล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต ของเด็กยุคใหม่ไม่ควรเกิน 1 ชม. ติดต่อกัน ส่วนเด็กเล็กจนถึงระดับอนุบาลควรเล่นติดต่อกันไม่เกินครึ่งชั่วโมง และไม่ควรให้เด็กเล่นเกมทุกวันเล่นเฉพาะวันหยุดก็พอ เพราะหากเล่นแล้วจะติดทำให้เสียเวลาในการทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ เพื่อลดปัญหาด้านสุขภาพทั้งทางร่างกาย และจิตใจของตัวเด็กยุคใหม่
LOTTOSOD888 เว็บแทงหวยออนไลน์อันดับ 1 ที่มีหวยมากที่สุดในประเทศ
