
ผลกระทบของโซเชียลมีเดียที่มีเดียต่อเด็กและวัยรุ่น
จำนวนเวลาที่เด็กและวัยรุ่นใช้ไปกับโซเชียลมีเดียนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตัวอย่างเช่น เด็กอเมริกันโดยเฉลี่ยใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวันบน Facebook เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ปกครองที่จะต้องรู้ว่าโซเชียลมีเดียส่งผลต่อลูกอย่างไร
สื่อสังคมออนไลน์ได้สร้างรูปแบบพฤติกรรมใหม่ ๆ ในเด็กที่ไม่ยั่งยืนและอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ความนับถือตนเองต่ำ ความแปลกแยกจากเพื่อนและครอบครัว การใช้สารเสพติด หรือแม้แต่การฆ่าตัวตาย วันนี้ ไอทีรอบรู้ จะพามาดู

เป็นที่น่าสังเกตว่า เด็กสมาธิสั้นทำให้พวกเขาฟุ้งซ่านในโลกออนไลน์มากกว่าที่เคยเป็นมา ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ปรากฏการณ์นี้ได้ถูกทำให้รุนแรงขึ้นโดยโซเชียลมีเดีย เนื่องจากเป็นการเพิ่มความจำเป็นในการกระตุ้นการมองเห็น
โซเชียลมีเดียได้สร้างพื้นที่ใหม่สำหรับการปฏิสัมพันธ์ เชื่อมโยงผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก กลายเป็นเวทีสำหรับเด็กและวัยรุ่นในการแบ่งปันความคิดเห็นและความคิดผ่านเนื้อหารูปแบบต่างๆ
โซเชียลมีเดียมีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตของเรา แต่ไม่ใช่แค่โซเชียลมีเดียเท่านั้นที่เปลี่ยนสังคมของเรา คอมพิวเตอร์มีการบูรณาการเข้ากับชีวิตประจำวันมากขึ้น และนวัตกรรมต่างๆ เช่น AI และ VR กำลังส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวิถีชีวิตของเราในปัจจุบัน
เด็กมีความกังวลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ออนไลน์มากกว่าสิ่งอื่นใด เนื่องจากความแพร่หลายของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram การวิจัยแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าพวกเขาใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อ “หลบหนี” จากความเป็นจริงเพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนที่พวกเขารู้สึกสบายใจมากกว่าภายในตัวเอง
การปฏิวัติทางดิจิทัลทำให้เกิดยุคใหม่ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ด้วยความแพร่หลายของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เด็กและวัยรุ่นจะถูกดึงดูดไปยังแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนาแอพใหม่ๆ ทุกวัน ความพร้อมใช้งานของแอพและเว็บไซต์เหล่านี้ทำให้เด็กๆ ถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ และอื่นๆ ได้ง่าย โซเชียลมีเดียยังนำไปสู่การพัฒนาเนื้อหาออนไลน์อื่นๆ เช่น วิดีโอ YouTube หรือรูปภาพ รวมถึงการเล่นเกมออนไลน์ที่เป็นอันตรายต่อเยาวชน คนเพราะมันส่งผลต่อรูปแบบการนอนของพวกเขา