IP Address คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร 

by itropru
390 views
IP Address

IP Address คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร 

เราไปทำความรู้จักว่า IP Address คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เพราะปัจจุบันนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเทคโนโลยีและระบบอินเตอร์เน็ต ที่ก้าวหน้ามาก ๆ ดังนั้นมาทำความรู้จักเกี่ยวกับระบบการสื่อสารของอินเตอร์เน็ตกันที่มีโพรโตคอล TCP/IP เป็นมาตรฐาน ซึ่งมีอยู่ในทั้งคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือทุก ๆ เครื่องที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และอุปกรณ์ทุกชิ้นที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตจะต้องมีเลขอ้างอิงของอุปกรณ์ในการเชื่อมอินเตอร์เน็ต โดยที่เราเรียกกันว่า IP Address  วันนี้ ไอทีรอบรู้ จะพาไปดูกันเลย

IP Address คืออะไร

IP Address ในแต่ละเครื่องจะไม่ซ้ำกัน ดังนั้นจึงได้มีการก่อตั้งองค์กรเพื่อแจกจ่าย IP Address โดยเฉพาะชื่อองค์กรว่า InterNIC (International Network Information Center) อยู่ที่รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา การแจกจ่ายนั้นทาง InterNIC จะแจกจ่ายเฉพาะ Network Address ให้แต่ละเครือข่าย ส่วนลูกข่ายของเครือทางเครือข่ายนั้นก็จะเป็นผู้แจกจ่ายอีกทอดหนึ่ง ถ้าผู้ใช้สมัครเข้าเป็นสมาชิกขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตจากบริษัทผู้ให้บริการ (Internet Service Provider) เรียกว่า หน่วยงาน ISP สำหรับ IP Address จะประกอบด้วยตัวเลข 2 ส่วน คือ

1. เป็นเลขหมายของเครือข่าย (Network Number)

2. หมายเลขคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายนั้น (Host Number) เพราะในเครือข่ายใด ๆ อาจมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่มากมาย ในเครือข่ายที่อยู่คนละระบบ อาจมีเลข Host ซ้ำกันก็ได้ แต่เมื่อรวมกับเลขหมาย Network แล้วจะเป็น IP Address ที่ไม่ซ้ำกันเลย

การแบ่ง IP Address ออกเป็นกี่ระดับ

จริง ๆ แล้ว IP Address จะแบ่งได้เป็น 5 ระดับ (Class) แต่การใช้งานโดยทั่วไปจะมีเพียง 3 ระดับคือ Class A, Class B, Class C จะแบ่งตามขนาดของเครือข่าย มีรายละเอียดดังนี้

ระดับ Class A จะมี Network ตั้งแต่ 0 ถึง 127 (จะได้เห็นว่า บิตแรกเป็น 0 เสมอ) ตัวแรกจะเป็น 0 และหมายเลขของเครือข่าย (Network Number) ขนาด 7 บิต และมีหมายเลขของเครื่องคอมพิวเตอร์ (Host Number) ขนาด 24 บิต ทำให้เครือข่ายนี้สามารถมีเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายได้ถึง 224 = 16 ล้านเครื่อง เหมาะสำหรับองค์กรหรือบริษัทเครือข่ายยักษ์ใหญ่

ระดับ Class B จะมี Network ตั้งแต่ 128 ถึง 191 (เพราะขึ้นต้นด้วย 102 เท่านั้น) จะมีหมายเลขเครือข่าย แบบ 14 บิต และหมายเลขเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ 16 บิต (ส่วนอีก 2 บิตที่เหลือบังคับว่าต้องขึ้นต้นด้วย 10 ) ดังนั้นสามารถมีเครือข่ายอยู่ในระดับนี้ได้มากกว่า Class A คือมีได้ถึง 214 = 16,384 เครือข่าย และสามารถมีเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อในเครือข่าย Class B แต่ละเครือข่ายได้ถึง 216 หรือ 65,536 เครื่อง

ระดับ Class C จะมี Network ตั้งแต่ 192 ถึง 223 (เพราะขึ้นต้นด้วย 1102 เท่านั้น) จะมีหมายเลขเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ 8 บิตและมีหมายเลขเครือข่ายแบบ 21 บิต ส่วน 3 บิตแรกบังคับว่าต้องเป็น 1102 ดังนั้นระดับนี้จะมีจำนวนเครื่องต่อเชื่อมได้เพียงไม่เกิน 254 เครื่องต่อเครือข่าย ( 28 = 256 แต่หมายเลขเครื่อง 0 และ 255 จะไม่ถูกใช้งาน จึงเหลือเพียง 254 

ดังนั้นการสังเกตว่าเรานั้นใช้ IP Address ไหนจะมีตัวอย่างเช่น ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ในอินเตอร์เน็ตมีหมายเลข IP ดังนี้ 150.16.80.7 ตัวเลข 150.16 แสดงว่าเป็นเครือข่าย Class B และมีหมายเลขของเครื่องคอมพิวเตอร์คือ 80.7 หรือถ้ามี IP Address เป็น 192.168.8.55 ทำให้เราทราบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นอยู่ในเครือข่าย Class C และมีหมายเลขประจำเครื่องคือ 55 เป็นต้น

บทความที่คล้ายกัน

Leave a Comment